ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (15 มิ.ย.) นายประพาส รัตนสุวรรณ ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ และอดีตมือปราบชื่อดังของภาคใต้ ได้เข้าพบ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อร้องเรียนว่า ในขณะนี้มีการสร้างจตุคามรามเทพละเมิดลิขสิทธิ์ ที่ พล.ต.ท.สรรเพชญได้จดแจ้งไว้ โดยปัจจุบันมีการจัดสร้างจตุคามรามเทพไปแล้วกว่า 700 รุ่น ส่วนรุ่นที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์กันมากที่สุดมีอยู่ 2 รุ่น คือ 1. พระผงสุริยันจันทรา ลักษณะเป็นเหรียญกลม ด้านหน้าเป็นองค์จตุคาม 4 กร ล้อมรอบด้วยราหู 8 ตัว พร้อมด้วย 12 นักษัตร ด้านหลังเป็นยันต์ธรณี หรือที่นักเล่นพระเรียกกันว่าจตุคามรามเทพ รุ่นปี 30 และ 2. พระปิดตาพังพระกาฬ ลักษณะเป็นเหรียญกลม ด้านหน้าเป็นรูปพระปิดตาพังพระกาฬ ด้านหลังเป็นยันต์ดวงเมืองนครศรีธรรมราช ล้อมรอบด้วยราหู 8 ตัว หรือที่นักเล่นพระเรียกกันว่าพระปิดตาพังพระกาฬ รุ่นปี 32 ซึ่งในขณะนี้ได้มีการดำเนินคดีไปแล้ว 2 คดี เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ตามคดีหมายเลขดำที่ ศปก.อ.26/2547 ลงวันที่ 22 ก.ย.2547 และคดีหมายเลขดำที่ ศปก.อ.28/2547 ลงวันที่ 19 ต.ค. 2547 หากศาลมีคำสั่งออกมาว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของ พล.ต.ท.สรรเพชญ ก็จะมีการดำเนินคดีกับผู้จัดสร้างจตุคามรามเทพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ทุกรายทันที สำหรับผู้ที่จะสร้างจตุคามรามเทพต่อไป ก็ขอให้ขออนุญาตจาก พล.ต.ท.สรรเพชญ เจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน เพราะที่ผ่านมา พล.ต.ท.สรรเพชญก็เคยอนุญาตให้จัดสร้างมาแล้วหลายรุ่น
ด้าน พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ในปัจจุบันมีการโฆษณาจัดสร้างจตุคามรามเทพกันอย่างแพร่หลาย โดยตั้งชื่อรุ่นต่างๆรวมแล้วกว่า 700 รุ่น ซึ่งตนได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ในการจัดสร้างจตุคามรามเทพ ตลอดจนการที่พี่น้องประชาชนไปหาเช่าบูชานั้น หากเป็นไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ หรือเป็นไปด้วยความเชื่อส่วนตัว ไม่มีใครมาชักจูงโน้มน้าวให้เชื่อ ก็ถือเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล คงจะไปห้ามไม่ได้ แต่ถ้าการหลงเชื่อนั้น เป็นไปเพราะถูกผู้จัดสร้างโฆษณาชวนเชื่อจนเกินความเป็นจริง โดยมีเบื้องหลังที่จะแสวงหาผลประโยชน์อันมิควรได้จากการจำหน่าย ไปเข้ากระเป๋าตนเองหรือแบ่งปันกันเองในหมู่ผู้จัดสร้าง หรือเรียกได้ว่าเป็นการกระทำในเชิงพาณิชย์ ก็อาจจะมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นแล้วไม่ผ่านพิธีปลุกเสก แต่มาหลอกลวงว่าผ่านพิธีปลุกเสกด้วยแล้ว ก็ยิ่งถือเป็นความผิดชัดเจน มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 นอกจากนี้ ยังจะมีมูลความผิดตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคโดยการโฆษณาเกินความเป็นจริงอีกด้วย จึงขอเตือนมายังผู้จัดสร้างที่มีเจตนาจะแสวงหากำไร โปรดได้พึงระวัง อย่าเห็นแก่เงินมากเกินไป หากมีผู้มาร้องทุกข์อาจติดคุกได้ โดยเฉพาะในวันนี้ ได้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์อีก ก็แสดงว่าในการจัดสร้างจตุคามรามเทพต่อไปอาจเป็นปัญหาทางข้อกฎหมายด้วย ขณะนี้มีคดีฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ของ พล.ต.ท. สรรเพชญอยู่แล้ว 2 คดี หากศาลพิพากษาว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ก็อาจมีการฟ้องร้องตามมาภายหลังได้ จึงต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย ดังนั้น เรื่องนี้จึงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้จัดสร้างเอง ทางตำรวจคงไปบังคับอะไรไม่ได้
ในวันเดียวกัน ที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า ได้ทำคุกกี้ขึ้นมาชนิดหนึ่ง ใช้ชื่อว่าคุกกี้ จตุคำ รุ่นฉุกคิด 4 คำ รวยโคตร ลักษณะของคุกกี้ คล้ายเหรียญจตุคามรามเทพ เป็นทรงกลมเส้นผ่า ศูนย์กลาง 6 เซนติเมตร ด้านหน้ามีคำว่า จตุคำ มีทองคำเปลวปิดบางๆ ส่วนด้านหลังเป็นยันต์คำว่า อุ อา กะ สะ บรรจุในกระป๋องอะลูมิเนียมอย่างดี กล่องละ 4 ชิ้น ขายราคา 60 บาท มีจำหน่ายที่วัดสวนแก้ว สาเหตุเพื่อเตือนคนไทยที่หลงงมงาย ยึดติดจตุคามรามเทพแทนที่จตุราอริยสัจ หรืออริยสัจ 4 อันเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อให้คนไทยได้คิด ไม่ยึดติดหลงใหลในวัตถุอย่างไร้สติ
พระพยอมกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมามีการสร้างจตุคามรามเทพกันหลายร้อยรุ่น แต่ที่สะกิดใจเป็นชื่อรุ่นรวยไม่มีเหตุผล ทำให้อยู่เฉยต่อไปไม่ได้ ถ้าห้อยแล้วรวยไม่มีเหตุผล ก็จะขอซื้อสักโหล เพื่อนำไปห้อยที่ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลังช่วยให้รวยทีเดียวทั้งประเทศ ไม่ต้องมาห้อยคอทีละคนให้คอเคล็ดขัดยอก สำหรับที่ตั้งชื่อรุ่นว่า ฉุกคิด 4 คำ รวยโคตร นำมาจากหัวใจมหาเศรษฐีที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ คือ อุ มาจากอุฏฐานสัมปทา มีความขยันหมั่นเพียรหรือขยันหา อา มาจากอารักขสัมปทา หมายถึงเก็บรักษาทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบธรรม หรือขยันเก็บ กะ มาจากกัลยาณมิตตา คือการคบหาคนดีหรือการเลือกคบคน สะ มาจากสมชีวิตา คือการใช้จ่ายประหยัด ดังนั้น อุ อา กะ สะ ขยันหา ขยันเก็บ เลือกคบ เลือกใช้ เมื่อฉุกคิดแล้วเข้าใจก็จะรวยได้
การสอนที่ผ่านมาไม่ได้ผล เพราะสื่อมวลชนมีส่วนร่วมโฆษณาชวนเชื่อ มีข่าวปาฏิหาริย์ อีกทั้งผู้ใหญ่ ในบ้านเมืองเป็นประธานกดปั๊มพิมพ์เอง นอกจากนี้ยังมีหลวงปู่ หลวงพ่อไปร่วมปลุกเสก จนมีคนบอกว่าพระไทยชอบเสก พระเวียดนามชอบสอน ท่านติช นัท ฮันห์ พระชาวเวียดนามที่มีชื่อเสียงมาเมืองไทย มีลูกศิษย์ไปฟังคำสอนกันแน่น ท่านไม่เคยสนใจจตุคามรามเทพ ขณะที่พระไทยนั่งปลุกเสกกันเป็นร้อยเป็นพันรูป จตุคำของอาตมายังมีอิทธิฤทธิ์คืออิ่มอร่อย ไม่ต้องห้อยคอ บุญก็ได้ ไส้ก็เต็ม ท้องหายหิว มีจำหน่ายที่วัด และจะหาช่องทางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าต่อไป พระนักเทศน์ชื่อกระฉ่อนกล่าวสัพยอกเปรียบเปรย